เวลาเราดูฟุตบอลที่ไร ทุกวินาทีในการแข่งขันมันมักจะทำให้หัวใจเราเต้นแรงไม่แพ้กิจกรรมอื่น ๆ เลยทีเดียวครับ เพราะแต่ละแมตช์มันไม่ใช่แค่การเตะบอลธรรมดาๆ แต่มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ ความอึด และหัวใจนักสู้ของนักเตะแต่ละคนจริงๆ ครับ วันนี้เลยอยากชวนเพื่อนๆ มาดู 5 เกมแข่งขันฟุตบอล ประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 2000 จนถึงตอนนี้ ที่แฟนบอลทั่วโลกยังคุยกันไม่หยุดเลยครับ แต่ละเกมพิสูจน์ให้เห็นว่า บนสนามหญ้านี่ อะไรที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันก็เกิดขึ้นได้จริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นการพลิกเกมในนาทีสุดท้าย หรือลูกยิงสุดสวยที่ทำเอาทุกคนต้องอ้าปากค้างครับ มาดูกันครับว่ามีแมทช์ไหนบ้างที่ทำให้หัวใจของแฟน ๆ ทุกคนต้องเต้นระรัวไปพร้อมๆ กันครับ
1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ บาเยิร์น มิวนิก ปี 1999 นัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

ศึกสำคัญของยูฟ่า
นัดนี้มันไม่ใช่แค่เกมชิงแชมป์ยูฟ่าธรรมดาๆ นะครับ แต่มันเป็นศึกระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรป แมนยูจากอังกฤษปะทะบาเยิร์นจากเยอรมนี ทั้งคู่ฟอร์มกำลังร้อนแรงสุดๆ และหวังจะคว้าแชมป์ 3 รายการในฤดูกาลนี้ แฟนบอลทั่วโลกรอดูเกมนี้กันแทบไม่ไหวครับ เพราะรู้ว่าต้องมันส์แน่ๆ
นาทีสุดท้ายที่พลิกประวัติศาสตร์
จนถึงนาทีที่ 90 บาเยิร์นนำอยู่ 1-0 จากประตูในครึ่งแรกครับ ใครๆ ก็คิดว่าบาเยิร์นจะได้แชมป์แล้ว แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนยูทำในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อครับ เชอริงแฮมโหม่งตีเสมอ แล้วโซลชาร์ก็ซัดประตูชัยตามมาแบบไม่ทันตั้งตัว ทำเอาแฟนบอลทั่วโลกตะลึงครับ นี่มันประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการลูกหนังชัดๆ
หลังเกมสุดพลิกผัน
แมนยูไม่ใช่แค่ได้แชมป์ยูฟ่าครับ แต่พวกเขาได้ทริปเปิ้ลแชมป์ ทั้งพรีเมียร์ลีก และเอฟเอคัพด้วย ทำให้ทุกคนยกให้เป็นหนึ่งในทีมที่เจ๋งที่สุดตลอดกาลครับ ส่วนบาเยิร์นถึงจะผิดหวังหนัก แต่เกมนี้ก็ทำให้พวกเขาแกร่งขึ้น และยังคงเป็นทีมระดับท็อปของยุโรปมาจนถึงทุกวันนี้ครับ
2. ลิเวอร์พูล ปะทะ เอซี มิลาน ปี 2005 นัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

การพลิกเกมสุดมหัศจรรย์
เกมนี้มันสุดยอดมากเลยครับ เล่นกันที่อิสตันบูล ครึ่งแรกลิเวอร์พูลโดนถล่มไป 0-3 จากลูกยิงของมัลดินีกับเครสโปครับ แต่พอครึ่งหลังมาเท่านั้นแหละครับ ลิเวอร์พูลทำเอาแฟนบอลตะลึงเลย ยิง 3 ประตูรวดภายในแค่ 6 นาทีครับ เจอร์ราร์ด ฮูเปีย และอลอนโซ่ ช่วยกันซัดจนสกอร์กลับมาเท่ากันที่ 3-3 ครับ
ลุ้นระทึกดวลจุดโทษ
พอเข้าสู่การดวลจุดโทษ มันก็เป็นอีกช่วงเวลาที่น่าจดจำมากๆ ครับ ดูเด็คนายทวารของหงส์แดงเซฟลูกยิงของปิร์โล่กับเชฟเชนโก้ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 3-2 ครับ
เกมนี้เปลี่ยนประวัติศาสตร์
ชัยชนะครั้งนี้มันยิ่งใหญ่มากๆ เลยครับ นอกจากจะเป็นแชมป์ยูฟ่าสมัยที่ 5 ของลิเวอร์พูลแล้ว มันยังเป็นการคัมแบ็คที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยครับ ทุกคนเรียกมันว่า "ปาฏิหาริย์แห่งอิสตันบูล" เพราะมันเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกทีมว่า อย่าเพิ่งยอมแพ้ถ้าเกมยังไม่จบครับ
3. บาร์เซโลนา ปะทะ เปแอสเช ปี 2017 รอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

การดวลกันในรอบ 16 ทีมสุดท้า
เกมนี้สุดยอดมากเลยครับ เป็นการดวลกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย บาร์ซ่าแพ้เลกแรกที่ปารีสมาตั้ง 0-4 ใครๆ ก็คิดว่าจบแล้วครับ แต่พอกลับมาเล่นที่คัมป์นู บาร์ซ่าทำในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ พลิกกลับมาชนะ 6-1 ในเลกที่สอง เรียกว่าเป็นการคัมแบ็คที่เหนือความคาดหมายจริงๆ ครับ
บทบาทของเนย์มาร์และการยิงประตูชัย
คนที่โดดเด่นสุดๆ ในเกมนี้ต้องยกให้เนย์มาร์ครับ ยิงฟรีคิกสวยๆ เข้าไป แถมยังซัดจุดโทษได้อีก ที่เด็ดสุดคือตอนท้ายเกม เขาจ่ายบอลให้เซร์จี้ โรแบร์โต้ ยิงประตูชัยในช่วงทดเวลา ทำให้บาร์ซ่าผ่านเข้ารอบไปได้แบบสุดมหัศจรรย์เลยครับ
ผลกระทบต่อวงการฟุตบอลและแฟนบอลทั่วโลก
เกมนี้มันเปลี่ยนวงการฟุตบอลไปเลยนะครับ เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกทีมที่เจอสถานการณ์ยากๆ ว่าอย่าเพิ่งท้อ การคัมแบ็คของบาร์ซ่าคืนนั้นกลายเป็นตำนานที่แฟนบอลทั่วโลกพูดถึงไม่หยุดครับ มันไม่ใช่แค่ชัยชนะธรรมดา แต่มันพิสูจน์ให้เห็นว่าในโลกฟุตบอล อะไรก็เป็นไปได้ ถ้าเรามีหัวใจนักสู้จริงๆ ครับ
4. เยอรมนี ปะทะ บราซิล ปี 2014 รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก

ความพิเศษของการแข่งขันในบ้านของบราซิลและความคาดหวัง
บอกเลยครับว่าฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลนี่พิเศษมากๆ เพราะบราซิลเป็นชาติมหาอำนาจลูกหนังที่คว้าแชมป์โลกมาแล้วตั้ง 5 สมัย แฟนบอลบราซิลเลยตั้งความหวังสูงมากว่าจะได้แชมป์โลกสมัยที่ 6 ในบ้านตัวเองครับ
การถล่มทลายด้วยสกอร์ 7-1 และผลกระทบทางจิตใจต่อแฟนบอลบราซิล
แต่ที่เกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศนี่ช็อกสุดๆ เลยครับ เยอรมนีถล่มบราซิลยับเยินถึง 7-1 เรียกว่าทำเอาแฟนบอลบราซิลทั้งประเทศช็อกกันไปเลย ความพ่ายแพ้ครั้งนี้กลายเป็นบาดแผลลึกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลบราซิลไปเลยครับ
การส่งผลกระทบในระยะยาวต่อทีมชาติบราซิลและเยอรมนี
เกมนี้เปลี่ยนทั้งสองทีมไปเลยนะครับ เยอรมนีได้แรงฮึดสุดๆ จนคว้าแชมป์โลกไปครอง ส่วนบราซิลก็ต้องกลับมาทบทวนตัวเองใหม่หมด ต้องสร้างทีมขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น หวังว่าสักวันจะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมได้ครับ
5. สเปน ปะทะ อิตาลี ปี 2012 นัดชิงชนะเลิศยูโร

การโชว์ฟอร์มการเล่นแบบทิคิ-ทากาของสเปน
ตอนชิงแชมป์ยูโร 2012 ที่เคียฟ สเปนโชว์ลีลาการเล่นทิคิ-ทากาสุดยอดเลยครับ ทั้งการครองบอลและส่งบอลนี่แม่นยำสุดๆ ทำให้คุมเกมได้เหนือกว่าอิตาลีแบบเห็นๆ เลยครับ ไม่ใช่แค่ทำให้อิตาลีเล่นยากอย่างเดียวนะครับ แต่ยังสร้างโอกาสยิงประตูได้เรื่อยๆ อีกด้วย
ความสำเร็จของทีมชาติสเปนในการคว้าแชมป์ยูโรเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน
เกมนี้ทำให้สเปนเป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์ยูโรได้สำเร็จครับ คว้าแชมป์สองสมัยติด ทั้งปี 2008 และ 2012 เลย ถือเป็นยุคทองของสเปนจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่ทีมที่เก่งที่สุดในยุโรปเท่านั้น แต่เก่งระดับโลกเลยครับ
ผลกระทบต่อแท็กติกและแนวทางการเล่นของทีมชาติอื่นๆ
ชัยชนะของสเปนในยูโร 2012 นี่เปลี่ยนวงการฟุตบอลไปเลยนะครับ ทิคิ-ทากาของพวกเขากลายเป็นแบบอย่างให้ทีมทั่วโลกเอาไปพัฒนาต่อ ทั้งเรื่องการครองบอล การทำความเข้าใจกฎฟุตบอลระหว่างเกมและการส่งบอลเร็วๆ แม่นๆ ไม่ใช่แค่ทำให้คนยอมรับในแท็กติกนี้เท่านั้นนะครับ แต่ยังเปลี่ยนมุมมองที่คนมีต่อฟุตบอลไปเลย ทีมอื่นๆ ก็พยายามเอาไปปรับใช้เพื่อหวังจะประสบความสำเร็จแบบสเปนบ้างครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับ ? กับทั้ง 5 เกมแข่งขันฟุตบอล ประวัติศาสตร์ แต่ละเกมที่เราได้พูดถึงไม่เพียงสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมในขณะนั้น แต่ยังฝังลึกอยู่ในใจของแฟนบอลทุกคน ทำให้หลาย ๆ เลือกทีมฟุตบอลในใจ สร้างฐานแฟนคลับใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการคัมแบ็คสุดมันส์ของลิเวอร์พูลในแชมเปียนส์ลีก หรือเกมที่เยอรมันถล่มบราซิลในฟุตบอลโลก ทุกเหตุการณ์ที่เราได้ย้อนกลับไปดูนั้นพิสูจน์ให้เห็นว่า ฟุตบอลไม่ใช่แค่กีฬาธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง การต่อสู้ และความมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อความฝัน ผมหวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของฟุตบอล และเข้าใจว่าทำไมผู้คนทั่วโลกถึงหลงรักกีฬาชนิดนี้กันนะครับ แล้วพบกันในบทความหน้าครับ
คำถามที่พบบ่อย
1.เกมไหนในบทความที่น่าจดจำที่สุด?
ที่แฟนบอลพูดถึงกันไม่หยุดปากคือเกมระหว่างหงส์แดงลิเวอร์พูลกับเอซี มิลาน นัดชิงแชมป์ยูฟ่าปี 2005 ที่อิสตันบูล ตามหลัง 0-3 แต่กลับมาชนะจุดโทษได้แบบสุดระทึกครับ
2.ทำไมเกมเยอรมันบุกถล่มบราซิลในบอลโลก 2014 ถึงเป็นประวัติศาสตร์?
เกมนั้นทำเอาแฟนบอลทั่วโลกอึ้งเลยครับ เยอรมันบุกมาถล่มเจ้าภาพบราซิลถึง 7-1 ในบ้านตัวเองเลยนะครับ ทั้งๆ ที่บราซิลเป็นทีมระดับตำนานของโลกเลยนะ
3.แล้วในบทความมีเกมจากรายการไหนบ้างครับ?
มีครบเลยครับ ทั้งศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก บอลโลก และยูโร เรียกว่าเป็นเวทีใหญ่ระดับโลกที่เหล่านักเตะได้โชว์ฝีเท้ากันสุดๆ
4.เกมเหล่านี้ส่งผลต่อวงการบอลยังไงบ้าง?
ไม่ใช่แค่สร้างความมันส์ให้คนดูนะครับ แต่ยังเป็นบทเรียนสอนใจด้วยว่าในฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ เป็นแรงบันดาลใจให้นักเตะรุ่นใหม่ว่า อย่ายอมแพ้ง่ายๆ สู้จนนาทีสุดท้ายครับ